“อ๊ะ” เสียงครางหวานหลุดรอดออกจากริมฝีปากสีชมพูสด ก่อนจะเงียบหายไปเมื่อคนด้านบนก้มลงมามอบจุมพิตแสนหวานให้อีกครา ดูดดึงกลีบปาก ก่อนจะสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากของร่างด้านใต้ เกี่ยวกระวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ฝ่ามือร้อนของคนด้านบนลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย นวดเฟ้นที่บั้นท้ายกลมกลึง พร้อมๆกับละริมฝีปากออก ก่อนจะมอบจูบเล็กๆไปทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวเนียนสวย ขบกัดเบาๆเพื่อตีตราความเป็นเจ้าของด้วยรอยสีชมพูสดที่ปรากฏขึ้นในทันทีที่เขาละริมฝีปากออกไป จมูกโด่งไล้ไปตามโครงหน้าก่อนจะฝังลงบนแก้มนุ่มของอีกคน แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“มยองซู..” เสียงหวานดังขึ้นในทันทีที่เห็นท่าทีที่แปลกออกไปของเจ้าของชื่อ จึงจำต้องลุกขึ้นมานั่งมองแผ่นหลังกว้างของอีกคน มือเล็กดึงเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ก่อนจะแตะลงที่ไหล่ของอีกคน “เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ซองยอล ผมคิดถึงซองยอลมากๆเลยนะ ผมอยากรักซองยอลใจจะขาด แต่…” มยองซูหันมามองร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลังในสภาพกึ่งเปลือย ตามตัวเต็มไปด้วยรอยจูบที่เขาบรรจงสร้างขึ้นมา เสื้อเชิ้ตของเขาที่เจ้าตัวชอบใส่นอนถูกปลดกระดุมจนเผยให้เห็นผิวกายขาวเนียน สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมแพ้และเบือนหน้าไปมองกรอบรูปที่โต๊ะข้างเตียงแทน “ผมไม่เข้าใจทำไมซองยอลต้องทิ้งผมไป”
ซองยอลขยับกายเข้าไปใกล้อีกคน ก่อนจะกอดเอาไว้ด้วยสองแขน คางมนวางลงบนไหล่กว้าง พลางหันไปกดจมูกลงบนแก้มของมยองซู
“มยองซู งอนผมเหรอ”
“…” มยองซูไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าความรู้สึกเช่นนี้จะเรียกว่างอนได้หรือเปล่า มยองซูก็แค่สงสัยว่าเขาทำอะไรผิด หรืออีกคนมีเหตุผลอะไรถึงได้เลือกเดินจากเขาไป
“มยองซูรู้ไหม ผมคิดถึงมยองซูมากๆเลยนะ” เสียงหวานที่กระซิบอยู่ชิดใบหู พร้อมๆกับริมฝีปากนิ่มที่กดจูบลงบนกกหูของเขาก็ทำให้มยองซูเกือบจะทนไม่ได้
แต่ยังหรอก เขายังอยากรู้อยู่ว่าอีซองยอลจะทำอะไรได้อีก
“ผมคิดถึงมยองซูนะ ไม่อยากพิสูจน์เหรอ” ไม่พูดเปล่า ซองยอลยังระรานอีกคนด้วยการจูบหนักๆที่ซอกคอ ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งอยู่บนตักของมยองซู อมยิ้มๆน้อยๆก่อนจะถามย้ำ “ว่าไง~”
“…” แต่มยองซูก็ยังคงเงียบ ทำให้ซองยอลต้องหลุบตาลงต่ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแนบริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอีกคนที่ให้ความร่วมมือโดยการเผยอริมฝีปากรอ ดูดดึงอย่างเอาแต่ใจก่อนจะสอดปลายลิ้นเรียวเล็กเข้าไปหยอกล้อกับอีกคน มือเล็กลูบไปตามแผ่นหลัง อ้อมมาด้านหน้าและผลักอีกคนให้ล้มลงไปนอนบนที่นอนนุ่ม พลางถอนริมฝีปากออก และจ้องมองอีกคนด้วยดวงตาหวานฉ่ำ
ปลดกระดุมเสื้อนอนของอีกคนที่ละเม็ด พร้อมๆกับจับจ้องไปที่ดวงตาคู่สวยของมยองซู ดวงตาคู่สวยที่มักจะทำให้ซองยอลรู้สึกราวกับหลอมละลาย เช่นเดียวกับในตอนนี้ แต่ซองยอลยังต้องอดทนอยู่ เขาจะต้องง้อมยองซูเสียก่อน
ริมฝีปากเล็กจุมพิตไปทั่วแผ่นอกแกร่ง ฝากรอยรักไว้ประปราย มือเรียวเลื่อนลงต่ำลงไปเรื่อยๆจนไปถึงกึ่งกลางลำตัว ช้อนดวงตาขึ้นมองอีกคนที่กำลังจ้องมองการกระทำของเขาอีกครั้ง ก่อนจะดึงกางเกงนอนและชั้นในให้พ้นทาง กอบกุมแกนกายของอีกฝ่ายไว้จนเต็มอุ้งมือ รูดรั้งอยู่สองสามที ก่อนจะแตะลิ้นเล็กลงไปที่ส่วนปลาย และค่อยๆกลืนกินแกนกลางลำตัวของอีกคนทีละน้อย
“ซ…ซองยอล” มยองซูหลุดครางออกมา ทำให้ซองยอลต้องช้อนดวงตามองพลางส่งเสียงในลำคอ ซึ่งนั่นยิ่งปลุกเร้ามยองซูมากยิ่งขึ้น โพรงปากอุ่นร้อน และลิ้นเล็กของซองยอลยังคงซุกซนอยู่เช่นนั้น ดูดดุนและโลมเลียอยู่ขณะหนึ่ง จนกระทั่งในที่สุดมยองซูก็ปลดปล่อยออกมา จนซองยอลต้องสำลัก มยองซูจึงรีบดึงร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักพลางเอ่ยถาม “เป็นยังไงบ้าง”
“หายโกรธผมหรือยัง” ดวงตากลมโตที่สุกสกาวอยู่เสมอหมองหม่นเสียจนมยองซูอดไม่ได้ที่จะบดจูบลงบนริมฝีปากสีสด ลิ้นร้อนกวาดกลิ่นคาวในโพรงปากของซองยอล ก่อนจะถอนออกมา
“แต่ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นเลยนี่”
“ก็ผมอยากให้มยองซูหายโกรธ”
“อยากให้ผมหายโกรธเหรอ คนดี” กดยิ้มมุมปากขณะที่เอ่ยถามอีกคน ซองยอลจึงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบกลับมาเสียงแผ่ว “ใช่”
“งั้นให้ผมพิสูจน์หน่อยนะ” ว่าแล้วก็ผลักอีกคนลงไปนอนราบอยู่บนที่นอนนุ่มตามเดิม ก่อนจะทาบทับลงไป แลกจูบดูดดื่มกับซองยอล พลางลูบไล้ผิวกายเนียนนุ่มด้วยมือที่สองข้าง ปลดเสื้อเชิ้ตที่ทำให้ร่างนี้ดูยั่วยวนมากกว่าที่เคยออก ก่อนจะตามด้วยกางเกงขาสั้นและชั้นใน มือร้อนแตะแกนกายของอีกคน ซองยอลจึงทำได้เพียงส่งเสียงอยู่ในลำคอเพราะมยองซูยังคงบดจูบอยู่แบบนั้น
มยองซูจับแกนกายนั้นรูดขึ้นลงเนิบนาบ ก่อนจะละริมฝีปากออกมากดจูบไปทั่วผิวกายเนียน ส่วนอีกมือนั้นลูบไล้อยู่ที่บั้นท้ายของซองยอล จนเจ้าตัวต้องส่งเสียงครางออกมา
“อ๊ะ!” เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นในทันทีที่มยองซูแทรกเรียวนิ้วเข้าไปในกาย คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น แต่แล้วริมฝีปากสีสวยก็ยังคงต้องส่งเสียงคราง เมื่อมือของมยองซูและเรียวนิ้วนั้นทำงานไปพร้อมๆกัน จนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามืออีกคน และเป็นเวลาเดียวกันกับที่มยองซูสอดใส่นิ้วเพิ่มเข้าไปมากขึ้นตามลำดับ
ซองยอลหายใจติดขัด แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกด้วยความรู้สึกโล่งเมื่อมยองซูถอนนิ้วมืออกไป แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น ร่างกายแข็งแกร่งของอีกคนก็สอดใส่เข้ามาจนซองยอลต้องกรีดร้องออกไปทันที ดวงตากลมโตปริ่มไปด้วยหยดน้ำที่คลออยู่ มยองซูจึงโน้มหน้าลงมาจูบซับน้ำตาให้ พลางกระซิบเบาๆ
“อดทนหน่อยนะครับ”
“อื้อ” ตอบกลับไปด้วยเสียงสั่นเครือ ร่างทั้งร่างรู้สึกราวกับจะฉีกขาด ยามที่มยองซูค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามา มยองซูหยุดเมื่อเขาเข้าไปได้ทั้งหมด เพื่อปล่อยให้ซองยอลได้ปรับตัว ร่างกายของซองยอลตอดรัดเขาเสียจนแทบทนไม่ไหว
“อย่าเกร็งนะคนดี” กระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูอีกคน ก่อนจะกดจูบที่ซอกคอ และมอบจูบรสหวานให้กับอีกคนที่นอนหอบหายใจเพราะความอึดอัด
มยองซูเริ่มขยับกายเข้าออกอย่างเนิบนาบ เมื่อซองยอลผ่อนคลาย ก่อนจะเร่งเร้าจังหวะเพิ่มมากขึ้นในทันทีที่ซองยอลมีปฏิกริยาตอบสนองที่ดี เสียงหอบหายใจอันหนักหน่วงของมยองซูดังคลอไปกับเสียงครางด้วยความกระสันซ่านของซองยอล
เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นหลายเท่า เพราะร่างกายของทั้งสองร่างที่อยู่บนเตียงกว้างนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง ผิวขาวเนียนของซองยอลเรื่อสีชมพูจนมยองซูอดใจไม่ได้จึงขบกัดให้เกิดรอยอีกครั้ง
บทเพลงแห่งรักล่วงเลยมาจนถึงช่วงสุดท้าย มยองซูขยับกายถี่รัวมากขึ้น ในขณะที่ซองยอลก็เปล่งเสียงครางออกมาดังมากขึ้น ร่างทั้งร่างเกร็งและกระตุก เมื่อร่างกายที่เสียดสีไปกับหน้าท้องของมยองซูได้ปลดปล่อยอีกครั้ง สะโพกสวยยังคงตอบสนองร่างที่กระแทกกระทั้นเข้ามาเป็นอย่างดี ก่อนจะหวีดร้องออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อีกคนปล่อยเข้ามาในตัวเขา
“เชื่อหรือยัง” เสียงหวานที่เจือไปด้วยเสียงหอบดังขึ้นทันทีที่มยองซูกดจูบลงบนไหล่เล็ก ก่อนจะไล่มาที่ซอกคอขาว
“เชื่อแล้วครับ แต่ยังไม่รู้เลยนะว่าซองยอลคิดถึงผมแค่ไหน” พูดพลางขยับแกนกายเข้าออกอีกครั้ง ซองยอลจึงต้องเปล่งเสียงครางหวานออกมา พร้อมๆกับความต้องการที่ถูกปลุกเร้าโดยคนบนร่าง
แสงไฟเล็ดลอดผ่านทางผ้าม่านสีเข้มอยู่เกือบค่อนคืน ก่อนจะดับลงพร้อมๆกับทั้งสองคนที่เข้าสู่นิทราด้วยความอ่อนแรง
TALK: อาจจะลำบากที่ต้องเปิดย้อนไปมานะคะ แต่เราเกรงว่าอาจะมีคนที่ไม่อ่านเอ็นซีด้วย ยังไงก็ขอโทษนะคะ T_T รบกวนกลับไปอ่านต่อที่เด็กดีด้วยน้า >O< http://my.dek-d.com/khanun-ys/story/viewlongc.php?id=960637&chapter=2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น